อะตอม

อะตอม

อะตอม เป็นงานสุดยอด

อะตอม ข่าวลือร้ายๆเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า โดยส่วนมากจะกลับมาเป็นข้อมูลข่าวสารเช่นเดียวกับเสมอไป ในทุกๆ 2 ถึง 3 เดือน ซึ่งนั่นหมายถึงว่า 4-5 ครั้งในแต่ละปี ที่โดยมากจะมีข้อมูลข่าวสารที่ไม่ดี เกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า ส่งผลให้บุหรี่ไฟฟ้าโดนเข้าใจผิดอยู่เป็นประจำ วันนี้ C9vapors มีงานศึกษาค้นคว้าที่จะมาลบล้างความรู้ความเข้าใจผิดที่คนหลายท่านมีต่อบุหรี่ไฟฟ้ามาให้ทุกคนอ่านกัน
การวิจัยบอกให้เห็นว่าการแปรไปใช้บุหรี่ไฟฟ้าสามารถแก้ไขสุขรูปของกล้ามเนื้อหัวใจได้

มีการพูดถึงกันเยอะๆเกี่ยวกับงานศึกษาค้นคว้าที่เขียนด้วยกันโดย Stanton Glantz ผู้โด่งดังที่พาดพิงว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้านำมาซึ่งอาการหัวใจวาย ผลสรุปที่สมมติขึ้นของการเรียนรู้นี้ได้รับความสนใจ อะตอม อย่างรวมไปถึงโดยการรายงานเท็จว่าบุคคล 38 คนพบกับภาวะจิตใจล้มเหลวหลังจากเปลี่ยนแปลงจากการสูบบุหรี่เป็นบุหรี่ไฟฟ้า อย่างไรก็ดี เมื่อทวนเพิ่มอีก Dr. Brad Rodu จากมหาวิทยาลัย Louisville ประสบว่าสถานะการณ์เกี่ยวกับจิตใจที่ถูกกล่าวหาว่ากำเนิดขึ้นจริงเมื่อหลายปีมาแล้ว แทนที่จะเกิดขึ้นในทันทีภายหลังที่บุคคลพวกนั้นเปลี่ยนไปใช้การสูบบุหรี่ไฟฟ้า

สำหรับผู้ที่คงควรจะเป็นหลักฐานเพิ่มเติม การเรียนอื่นที่จัดทำโดยทีมศึกษาค้นคว้าของ Dr. Konstantinos E. Farsalinos จากศูนย์ศัลยกรรมดวงใจ Onassis ในกรีซ ยังเจาะจงอีกว่าผู้สูบบุหรี่ที่เป็นผู้ใหญ่ที่แปรไปใช้บุหรี่ไฟฟ้าจะได้รับการปรับปรุงอย่างมากในสุขรูปของกล้ามเนื้อจิตใจในทันทีทันใด งานศึกษาค้นคว้าได้รับการจัดการทำเป็นเอกสารอย่างยอดเยี่ยมในการเล่าเรียนแบบ peer-reviewed เรื่อง

ผลกระทบเฉียบพลันของการใช้เครื่องไม้เครื่องมือส่งสารนิโคตินอิเล็กทรอนิกส์ (บุหรี่ไฟฟ้า) ต่อการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ: เทียบกับผลกระทบของบุหรี่ทั่วไป (BMC Cardiovascular Disorders)
ภาพรวมของการเล่าเรียนบุหรี่ไฟฟ้าของ FARSALINOS ที่เกี่ยวกับการทำงานของกล้ามเนื้อจิตใจ

น่าแปลกที่ฟอร์มปลอมที่ตีพิมพ์โดย Stanton Glantz ไม่น่าจะใช่ครั้งแรกที่นักเคลื่อนไหวต่อต้านการสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่มีแนวความคิดสมคบคิดได้ตีพิมพ์งานวิจัยปลอมที่ละเลยต่อกฎเกณฑ์การทางวิทยาศาสตร์ที่สมควร ในเดือนเดือนสิงหาคม 2017 เอกสารอีกฉบับหนึ่งที่อุตสาหะเชื่อเรื่องมโยงการสูบบุหรี่ไฟฟ้ากับอาการหัวใจวายอย่างไม่แม่นยำเห็นได้ชัดออนไลน์และเริ่มแพร่กระจายไปทั่วโซเชียลมีเดีย

งานเอกสารปี 2017 มีชื่อที่ค่อนข้างจะน่าตระหนกตกใจ อย่าง บุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายพอๆ กับการสูบบุหรี่ แค่เพียงหยดเดียวก็เสริมเติมความเสี่ยงต่อการเป็นโรคจิตใจวายได้ ได้ถูกหักล้างทันทีโดยดร. Farsalinos และผู้อื่น ๆ ในชุมชนวิทยาศาสตร์ในช่วงเวลาที่การเรียกร้องให้มีการเพิกถอนโดยโดยทันทีโดยสมาชิกสถาบันการเล่าเรียนจำนวนมากถูกละเลยโดยเว็บเผยแพร่ อย่างไรก็ดี การตีพิมพ์เรื่องเล่าที่ไม่เป็นที่

จริงที่อันตรายดังที่กล่าวถึงแล้วเป็นสิ่งที่คงจะมีส่วนทำให้ Farsalinos มีส่วนเข้าร่วมในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของเขาเองซึ่งเกี่ยวข้องกับผลพวงที่อาจจะมีสาเหตุจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าต่อดวงใจ

นักศึกษาค้นคว้าชาวกรีกเริ่มตั้งแต่ต้นด้วยการขอความให้การช่วยเหลือจากผู้เข้าร่วม 81 คน โดย 76 คนทำการศึกษาเรียนรู้เสร็จเรียบร้อยแล้ว 40 คนเป็นผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าเสมอๆ อะตอม อย่างน้อยหนึ่งเดือนซึ่งกำหนดตนเองว่าเคยสูบบุหรี่ด้วย ผู้ร่วม 36 ผู้คนที่เหลือเป็นผู้สูบบุหรี่ขั้นต่ำ 5 ปีโดยบริโภคบุหรี่ขั้นต่ำ 15 ครั้งต่อวัน อายุเฉลี่ยของผู้ร่วมคือ 35.5 ปี ทั้งชายและหญิงเข้าร่วมสำหรับในการทดลองทางคลินิก

ในระหว่างการทดพยายาม ผู้สูบบุหรี่จำเป็นที่จะต้องใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบที่ติดไฟได้เช่นเดียวกัน และขอให้ผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าใช้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่มีนิโคตินขนาด 7 มล. เหมือนกัน จากนั้นผู้เข้าร่วมแต่ละคนจะถูกไต่ถามเป็นระยะ ๆ ให้สูบบุหรี่ไฟฟ้าหรือสูบบุหรี่ในห้องปฏิบัติการที่เจาะจงเป็นพิเศษ ในระหว่างที่นักศึกษาค้นคว้าติดตาม สะสม และตรวจตราลักษณะการทำงานของกล้ามเนื้อจิตใจหลายแบบ

ชี้ให้เห็นว่าการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าของ FDA

อะตอม

 

ในสหรัฐอเมริกา FDA หรือสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา นั้นได้มีความมานะบากบั่นที่จะจำกัดวิธีใช้งานของบุหรี่ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของรสชาติ ความเข้มข้นของนิโคติน หรือความมากมายของตัวอุปกรณืบุหรี่ไฟฟ้าเอง ส่งผลให้วัยรุ่นคงหันไปสูบบุหรี่มากขึ้น ทาง C9vapors จึงต้องการชี้แนะเนื้อหานี้ และกล่าวอ้างเข้ากับประเทศไทย ที่อาจจะจะมีกรณีนี้กำเนิดขึ้นในภายภาคหน้าด้วยเช่นกัน

การเล่าเรียนใหม่ของ Duke บอกให้เห็นว่าการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าของ FDA สามารถเพิ่มการสูบบุหรี่ของวัยรุ่นได้ถึง 47%
ความมานะบากบั่นของสำนักงานคณะกรรมการ อะตอม อาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) ในการสร้างขอบเขตความพร้อมของสินค้าบุหรี่ไฟฟ้าสามารถส่งเสริมให้เยาวชนเกือบครึ่งที่มีอยู่กลับสู่อ้อมแขนของสินค้ายาสูบตามการศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยใหม่ของ Duke

Health การวิเคราะห์ออนไลน์กับผู้ร่วม 240 ผู้คนที่มีอายุตอน 18-29 ปี นักวิจัยได้ตั้งเหตุการณ์สมมุติขึ้น ผู้ตอบแบบสอบถามกี่คนจะกระทำเปลี่ยนแปลงความประพฤติการสูบบุหรี่ไฟฟ้าหรือการสูบบุหรี่ของหมู่เขา แล้ว FDA ควรจะทำงานด้านหลักเกณฑ์อย่างยิ่งในการต่อต้านบุหรี่ไฟฟ้า? สถานการณ์ที่พรีเซนเทชั่นมีราวกับต่อไปนี้

การจำกัดรสชาติของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าให้เหลือแค่ยาสูบและเมนทอล
ลำดับชั้นความเข้มข้นของนิโคตินลดลง
การสร้างขอบเขตความหลากหลายของอุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้าที่มีซื้อขายในท้องตลาด

ผู้เข้าร่วมการตรวจตราโดยประมาณหนึ่งในสามชี้เฉพาะตัวเราเองว่าเป็นลูกค้าทั้งบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าทั้งสองแบบ จากผลการเรียนรู้พบว่า 47% ของผู้ตอบแบบสอบถามเยาวชนทั้งปวงกล่าวว่าหมู่เขามีลัษณะทิศทางที่จะเพิ่มวิธีใช้สินค้ายาสูบแบบเดิมถ้า FDA ขจัดหรือลดความเข้มข้นของนิโคตินในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่ใช้สำหรับเพื่อการสูบบุหรี่ไฟฟ้าอย่างยิ่ง

อีก 22 เปอร์เซ็นต์กำหนดเพิ่มเติมอีกว่าหมู่เขามีลักษณะท่าทางที่จะสูบบุหรี่หลายครั้งขึ้นถ้า FDA จำกัดปริมาณความมากมายของอุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้าที่ปรับปรุงได้อย่างมาก หรือจำกัดจำพวกของคุณสมบัติที่มีอยู่ อย่างเช่น การสั่งการอุณหภูมิและกลไกการจัดแจงจำนวนนิโคติน

ประมาณ 17 เปอร์เซ็นต์อ้างอิงว่าหมวดเขาอาจจะจะกลับไปสูบบุหรี่อย่างบริบูรณ์ถ้าองค์การอาหารและยา จำกัด จำนวนรสชาติขอน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่มีอยู่ภายในตลาดให้เหลือเพียงแค่เฉพาะยาสูบและเมนทอลเพียงแค่นั้น

“ผลการเรียนจากการเรียนรู้ของพวกเราบ่งบอกถึงว่าการกำจัดสารปรุงแต่งของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จำนวนความเข้มข้นของสารนิโคติน และความมากมายหลายเครื่องไม้เครื่องมือบุหรี่ไฟฟ้าที่ปรับปรุงแก้ไขได้อาจทำให้มีการเกิดความตั้งอกตั้งใจที่จะลดวิธีใช้บุหรี่ไฟฟ้า และความมุ่งมั่นในเวลาเดียวกันสำหรับในการเพิ่มเติมวิธีการใช้บุหรี่ ในหมวดลูกค้าทั้งบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าด้วยกันในวัยหนุ่มสาว เพราะว่าผู้

บริโภคยาสูบ 38% เป็นผู้บริโภคสินค้ายาสูบทั้งสองแบบ (บุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า) หรือใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบอย่างอื่น และ 23% ของเหล่านี้ใช้บุหรี่ และบุหรี่ไฟฟ้าโดยเฉพาะ การศึกษาค้นพบกลุ่มนี้เป็นตัวแสดงรากฐานที่มีสาระว่าผู้ซื้อสินค้ายาสูบในสัดส่วนที่มีนัยสำคัญเชื่อว่าจะทำในสัดส่วนใด ตอบสนองต่อหลักเกณฑ์”

ในขณะการเล่าเรียนของ Duke Health เกี่ยวข้องกับหมู่สั่งงานที่ค่อนข้างจะเล็กของเยาวชน Dr. Lauren Pacek ผู้บังคับบัญชากลุ่มศึกษาค้นคว้ามั่นใจว่าการศึกษาและทำการค้นพบที่เกี่ยวข้องควรจะเป็นข้อตกลงณปลุกให้สมาชิกสภานิติบัญญัติและเจ้าบทบาทขององค์การอาหารและยา (FDA) ตื่นขึ้น แม้กระทั้งนักการเมืองลำดับขั้นเขตแดนและลำดับรัฐก็ควรจะระมัดระวังสำหรับในการออกกฎเกณฑ์

หมายต่อต้านการสูบบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งอาจส่งผลให้อัตราการสูบบุหรี่ของวัยรุ่นเพิ่มเติมขึ้นอย่างน่าสะดุ้งแทบจะในชั่วข้ามคืน ได้แก่ เมืองซานฟรานซิสโกที่เพิ่งผ่านระเบียบหมายแคว้นที่ห้ามวิธีขายสิน อะตอม ค้าบุหรี่ไฟฟ้าทั้งหมด ไม่ว่าจะผ่านทางหน้าร้านทั่วไปหรือทางออนไลน์

ถึงแม้ว่า Dr. Pacek จะเตือนว่าการดำเนินงานด้านข้อกำหนดแบบนี้อาจจะสร้างผลสรุปที่ดิ่งกันข้ามกับที่อยากที่จะได้ แต่เธอก็ส่งเสริมความจำเป็นมากสำหรับข้อเสนอด้านกฎระเบียบจำเพาะที่เกี่ยวเนื่องกับความรู้สึกที่อยากได้จำนวนภัณฑ์ที่ปกป้องเด็ก เกณฑ์ความไม่เป็นอันตรายที่เพิ่มเติมอีกขึ้น และเงื่อนไขสำหรับเพื่อการประชาสัมพันธ์ที่ล่อใจใจเด็ก

แผ่นแปะนิโคตินหรือบุหรี่ไฟฟ้า แบบไหนดีกว่า

วันนี้ C9vapors จะมานำเสนอบันทึกเรื่องเล่าที่เปรียบกันระหว่างผลสรุปของแผ่นแปะนิโคตินหรือบุหรี่ไฟฟ้า ว่าแบบไหนเป็นต่อกว่ากัน ในประเทศไทยเองนั้น แผ่นแปะนิโคตินคงจะจะไม่เป็นที่นิยมมากนัก ในการเป็นตัวคัดสรรค์หนึ่งของการเลิกบุหรี่ แต่ก็ใช่ว่าจะไร้คนใช้ วันนี้คุณจะมีความสามารถเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับแผ่นแปะนิโคตินกับการใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นตัวเลือกเฟ้นสำหรับการเลิกบุหรี่

แผ่นแปะนิโคตินหรือบุหรี่ไฟฟ้า แบบไหนได้เปรียบกว่า
เมื่อปีใหม่ใกล้เข้ามาและทศวรรษใหม่เริ่มตอนนี้ตั้งแต่ต้นขึ้น ถึงขณะนั้นของปีที่ผู้สูบบุหรี่หลายๆล้านคนสัญญากับตนเองหรือผู้คนที่พวกเขารักว่าจะเลิกสูบบุหรี่ตลอดชีพ อะตอม ผู้คนจำนวนมากเคยทดสอบและล้มเหลวหลายครั้งในก่อนหน้านี้ แต่ปีนี้หมวดเขาบอกว่ามันจะผิดแผกออกไป ท้ายที่สุดหมวดหมู่เขาจะเลิกนิสัยเสียนี้สักที

ตอนที่พวกเขาทบทวนโอกาสทางไม่น้อยเลยทีเดียวของโปรแกรมเลิกบุหรี่ซึ่งอาจรวมถึงการซื้อแผ่นแปะนิโคติน หมากชาวต่างชาติ และยาอมที่มีราคาแพงมาก หลายๆคนอาจกลัวที่จะพิจารณาถึงการแปรไปใช้บุหรี่ไฟฟ้า ท้ายที่สุดแล้ว โซเชียลมีเดียก็เต็มไปด้วยข่าวสารข้อมูลร้ายที่ดูราวกับว่าว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าก่อให้เกิดทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่ Popcorn Lung ไปกระทั่งพิษของแบบฟอร์มาลดีไฮด์ และทุกสิ่งทุกอย่างในระหว่างนั้น

อันที่จริง ผลตรวจสอบที่ตีพิมพ์เมื่อเดือนเดือนมีนาคม 2019 ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาโดยนักศึกษาค้นคว้าของศูนย์วิทยาศาสตร์การกำกับชมแลยาสูบแห่งสถาบันอุดมศึกษาแห่งรัฐหน้าจอร์เจีย (GSU-TCRS) กำหนดว่าชาวอเมริกันจำนวนมหาศาล 45% เชื่ออย่างไม่ถูก ๆ ว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้านั้นเป็นอันตรายพอๆ กับสูบบุหรี่ ที่น่าฉงนใจนอกเหนือจากนั้นคือ 10% ของผู้ตอบแบบสอบถามมั่นใจว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้านั้นเป็นอันตรายถึงชีวิตมากกว่าการสูบบุหรี่

แผ่นแปะนิโคติน เป็นยังไง
แผ่นแปะนิโคตินเป็นการบำบัดตอบแทนนิโคตินชนิดหนึ่ง (NRT) ซึ่งสามารถใช้เพื่อที่จะช่วยทำให้เลิกสูบบุหรี่ได้ แผ่นแปะนิโคตินช่วยลดความอยากได้อาหารและอาการถอนโดยแทนที่นิโคตินที่ทั่วไปจะได้รับจากการสูบบุหรี่ แผ่นแปะนิโคตินมักใช้ร่วมกับ NRT จำพวกออกฤทธิ์เร็วกว่า (เช่น ยาอมนิโคติน หมากคนต่างประเทศ เครื่องสูดพ่น หรือสเปรย์ฉีดปาก) เพื่อช่วยให้ท่านเลิกบุหรี่

เคล็ดลับใช้แผ่นแปะนิโคติน
ใช้แผ่นแปะนิโคตินโดยติดไว้บนผิวของคุณ เช่นเดียวกับการใช้แผ่นพลาสเตอร์ นิโคตินในแผ่นแปะจะถูกดูดซึมไปสู่ร่างกายอย่างช้าๆ ผ่านทางผิวหนัง ตั้งแต่นี้ต่อไปคือสองขั้นตอนไม่ยาก สำหรับการใช้แผ่นแปะนิโคตินอย่างแม่นยำ:

กรรมวิธีอันดับที่หนึ่ง:
กดแผ่นแปะลงบนรอบๆที่ไม่มีขนและแห้งของผิวหนังเป็นเวลาประมาณ 20 วินาที จะวางบนหน้าอก แขน หรือข้างหลังก็ได้ ใช้พื้นที่ผิวที่ต่างกันในแต่ละวัน ถ้าคุณใช้แผ่นแปะอย่างแม่นยำ คุณสามารถอาบน้ำ หรือว่ายน้ำได้โดยไม่จำเป็นที่จะต้องมาวิตกกังวลว่าจะหลุดออกมา

กรรมวิธีที่สอง:
ล้างมือด้วยน้ำ คงใช้ตอนสักครู่เพื่อจะให้แผ่นแปะเริ่มต้นดำเนินงาน ด้วยประการฉะนี้ให้ใช้ NRT ชนิดที่ออกฤทธิ์รวดเร็วทันใจกว่า (หมากฝรั่งนิโคติน สเปรย์ฉีดปาก ยาอม หรือยาสูดพ่น) อะตอม เพื่อช่วยลดความปรารถนาอาหาร

สิ่งสำคัญคือจำเป็นที่จะต้องใช้แผ่นแปะกับส่วนต่างๆ ของผิวในรายวัน ซึ่งจะช่วยปกป้องการระคายเคืองผิวหนัง ครีมสามารถช่วยลดการระคายเคืองผิวหนังได้หากกำเนิดขึ้นและการเปลี่ยนยี่ห้อก็สามารถช่วยได้เช่นเดียวกัน ทางที่ดีควรจะปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรซึ่งสามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้

บางคนสามารถรับรู้กับความฝันกระจ่างตอนใช้แผ่นแปะ มั่นใจได้ว่าความฝันที่แน่ชัดที่สุดจะขาดหายไปหลังจากที่มีการใช้ NRT มาหลายวัน สิ่งโดยง่าย อะไรบางอย่างสามารถช่วยป้องกันความฝันนี้ได้:

ลดการบริโภคคาเฟอีนของคุณลงอย่างน้อยครึ่งหนึ่งและหลีก

 

shortded