ดู extraction 2 หนังใหม่ 2023 ดูหนังฟรีเต็มเรื่อง คมชัดด้วยระบบ HD

ดู extraction 2

ดู extraction 2 ย้อนกลับไปเมื่อเมษายนปี 2020 Extraction เป็นหนังแอ็กชันฟอร์มยักษ์ของ Netflix ที่ได้รับผลบุญจากวัววิด-19 ไปแบบเต็มๆในระยะเวลาเพียงแต่เดือนกว่าๆข้างหลังล็อกดาวน์ โรงหนังถูกปิด หนังโปรแกรมยักษ์ทั้งสิ้นถูกเลื่อนฉายแบบไม่มีระบุ แต่ว่า Extraction เปลี่ยนเป็นหนังฟอร์มโตเรื่องเดียวที่มิได้รับผลพวง ด้วยเหตุว่าโปรแกรมฉายนั้นอยู่ใน Netflix ในเวลาที่คนส่วนมากจำต้องอยู่บ้าน

ฮันฮวีซอ (รับบทบาทโดย จีอิลจู) เป็นนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ เก่งงานเครื่องจักรกล บ้านเขาเป็นร้านค้าขายรวมทั้งซ่อมแซมรถจักรยาน บิดามารดาก็อยากที่จะให้เขามีคนรัก เนื่องจากมองเห็นความเนิร์ดมัวแต่เรียนของลูกแล้วเป็นห่วง นอกจากนั้นยังอ่อนหัดทั้งยังเรื่องแอลกอฮอล์และก็สตรี extraction 2 พากย์ไทย เขามีคู่หูร่วมภาควิชาที่สุดเหี้ยนหมายถึงกิลยงแท (รับบทบาทโดย ฮอจองไม่น) ผู้มีฝันต้องการเป็นด็อกเตอร์ รวมทั้ง ชางกิล (สวมบทโดย คิมกีดู)

ความได้เปรียบหนึ่งของ ‘Peter Pan & Wendy’ ก็น่าจะหนีไม่พ้นการอยู่ภายใต้ชายคาเดียวกับผู้ผลิตแอนิเมชัน ‘Peter Pan’ ที่ฉายในปี 1953 ของ Disney เองนี่แหละครับ (สามารถชมได้ทาง Disney+ Hotstar) ซึ่งความได้เปรียบก็คือ แอนิเมชันเวอร์ชันนี้นับเป็นแอนิเมชันที่เป็นภาพจำที่คุ้นหน้าคุ้นตามากที่สุดในบรรดาคอนเทนต์เกี่ยวกับปีเตอร์แพนที่เคยมีมาแล้วล่ะ ทั้งคาแรกเตอร์ปีเตอร์แพน และทิงเกอร์เบล ที่จริง ๆ แล้วภูติจิ๋วชุดเขียวตัวนี้

ออกแบบมาฉากออกมาได้โคตรดี แถมภาคนี้ยังจัดเต็มกว่าภาคที่ยัดระเบิดมาตู้มต้ามแบบไม่มีกั้ก ซึ่งความวิจิตรตระการตาพวกนี้มันยิ่งช่วยสนับสนุนให้ฉาก Long Take นี้มันเดือดขึ้นและก็เพอร์เฟ็คมากยิ่งกว่าเดิมไปอีกแล้วก็บรรดาเด็กหลง ที่จำเป็นต้องร่วมเสี่ยงอันตรายต่อสู้กับโจรสลัดจอมชั่วร้าย กัปตันฮุก (Jude Law) และก็ สมี (Jim Gafiigan) ลูกล้อคู่ใจที่กำลังตามล่าปีเตอร์แพนซึ่งแสดงได้เนียนดีเลิศ หัวข้อนี้เขาก็กลับหน้าที่เช่นเดียวกัน มาเป็นเด็กหนุ่ม เนิร์ดใสๆสวย ก็ชวนมองไปอีกในลัษณะหนึ่ง

ดู extraction 2

รีวิวหนัง ดู extraction 2 | ทดลองเทคระห่ำ ลุ้นระทึกเกือบจะลืมหายใจ

ดูอย่างกับว่า โปรเจกต์หนังแอ็คชั่นมันระห่ำที่มีจุดขายเสริมประเด็นการถ่ายแบบทดลองเทคจะไปได้ดี ภาคแรกของ ‘Extraction คนระห่ำภารกิจเดือด’ ที่เข้ามาถ่ายทำกันในประเทศไทย สำเร็จตอบรับเป็นอย่างดี 3 ปีถัดมา สองญาติ โจ รวมทั้ง แอนโธนี รุสโซ ก็เลยกลับมาพร้อมด้วยหนังภาคต่อ ดู extraction 2 ที่จะบอกภารกิจเสี่ยงตายอีกทีของไทเลอร์ เรค

คังฮเยจิน (รับบทบาทโดย อีเอลลียา) เป็นนักกีฬายิงธนูเก่ง แต่ว่าคุณเป็นคนไม่สมประกอบที่จำต้องนั่งวีลแชร์ บิดามารดาแยกทางกัน ก็เลยอาศัยอยู่กับบิดาและก็น้องสาวซึ่งมีฝันต้องการไปเป็นผู้เรียนเปลี่ยนต่างถิ่น แต่ว่าติดที่จำต้องช่วยบิดาดูแลพี่สาวทุพพลภาพ เลยยังไปไหนมิได้ ทั้งที่ที่จริงแล้วฮเยจินเองก็รับรองว่าจะดำรงชีวิตด้วยตัวเอง จะเอาชีวิตรอดโดยไม่ต้องพึ่งพิงคนใดกันแน่ คุณเป็นคนเข้มแข็งและไม่ยอมคน ค่อนจะเป็นสาวดุด้วย

ด้วยเหตุนี้ ตัวหนังก็เลยยืดเอาแอนิเมชันของตนเองนี่แหละมาเป็นแกนหลักสำหรับในการดัดแปลงปรับปรุงแก้ไข ซึ่งหากมองเปรียบเทียบกันช็อตต่อช็อต ก็จะมีความคิดเห็นว่าตัวหนังยึดจากแอนิเมชันมาเป็นตัวอ้างอิง อีกทั้งกระบวนการเล่า และก็เส้นเรื่อง จำพวกที่เรียกว่าเลียนแบบกันมาเลย รวมทั้งการให้เวนดี้เป็นตัวดำเนินเรื่องหลัก แต่ว่าแต่กระนั้น ตัวหนังเองก็มิได้ถึงกับจับเอาบทจากของเดิมมาตีความหมายใหม่พลาดท่าเดียวครับ

เพราะว่ามีความอุตสาหะจะแปลความใหม่ แล้วก็ปรับปรุงเรื่องราวให้มีความต่างไปจากเดิม อีกทั้งการปรับทุกสิ่ง ตั้งแต่โปรดักชัน กรรมวิธีการเล่าและก็เดินเรื่องที่ตรงกับข้อเท็จจริง ตัดทอนความแฟนตาซีลง แม้กระนั้นก็ยังมีความแฟนตาซีอยู่ และก็เพลงประกอบจากแอนิเมชันที่มิได้ถูกประยุกต์ใช้เลย แต่ว่าเป็นการแต่งขึ้นมาใหม่ทั้งผอง

และก็การเพิ่มเงื่อนแล้วก็มิติต่างๆให้ชราละคร ดังเช่นว่าเวนดี้ ที่จำเป็นต้องย้ายออกจากบ้านไปเรียนโรงเรียนกินนอนตามคำสั่งของบิดามารดา ตอนที่คุณเองก็ไม่รู้เรื่องถึงเจตนาแล้วก็ความปรารถนาดีของบิดาแล้วก็แม่ แล้วก็การเจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ด้วยเหตุว่าในเมื่อคุณเองก็เป็นสุขดีกับการอยู่บ้าน เล่นกับน้องๆอยู่แล้ว ซึ่งการดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขนี้รู้เรื่องว่าคงจะตั้งอกตั้งใจให้เป็นความต่างขั้วกันระหว่างเวนดี้ กับปีเตอร์แพน เด็กผู้ชายผู้ไม่ยินยอมโต

รีวิวภาพยนตร์ Forbidden Dream (2019)

เป็นภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์ ผลงานของ เฮอจินโฮ ผู้กำกับระดับประสิทธิภาพแถวหน้าของแวดวงภาพยนตร์ประเทศเกาหลี ผู้ครอบครองผลงานเด่นๆเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น Christmas in August (1998), One Fine Spring Day (2001), April Snow (2005), Happiness (2007), A Good Rain Knows (2009), The Last Princess (2016) เอกลักษณ์งานส่วนมากจะเด่นสำหรับในการดำเนินเรื่องเรียบง่าย ทอดเนิบ แต่ว่าเต็มไปด้วยอารมณ์ปั่นป่วนบีบความรู้สึกได้อย่างประทับใจ

อีกการตีความหมายใหม่ก็คือ การเพิ่มพื้นเพให้กับศัตรูคู่อาฆาต ตลอดปีเตอร์แพน รวมทั้งกัปตันฮุก จากในแอนิเมชันที่มิได้มีการเล่าภูมิหลังอะไรมากมาย แม้กระนั้นในเวอร์ชันนี้ น่าดึงดูดตรงการเพิ่มพื้นเพของปีเตอร์แพน แท้จริงๆแล้วไม่ใช่เพียงแค่เด็กบินได้ แม้กระนั้นยังมีเบื้องหน้าเบื้องหลังที่มาที่ไม่เคยรับรู้มาก่อน รวมทั้งความข้องเกี่ยวระหว่างเขากับกัปตันฮุกยังต้องการเล่นบันเทิงใจอยู่กับเหล่าเด็กหลงในบ้านร้าง และไม่จะต้องมีบิดามารดารอพร่ำสอนพร่ำบ่น

ที่นอกเหนือจากเพียงแค่เรื่องเล่าว่า ปีเตอร์แพนตัดมือของเขากระทั่งขาด เลยเป็นที่มาที่ทำให้เขาจะต้องใส่มือตาขอแทน (ปีเตอร์แพนนี่โคตรอันตรายแบบเดียวกันนะ 555) รวมถึงการต่อสู้ระหว่างปีเตอร์แพน เวนดี้ รวมทั้งบรรดาเด็กๆกับกองทัพโจรสลัดของกัปตันฮุก ที่อัปสเกลอีกทั้งพล็อตรวมทั้งงานสร้างให้มีความ Epic และก็สมจริงสมจัง ที่นับว่าทำเป็นค่อนข้างจะดีในขณะตัวหนังก็แทรกสอดเรื่องเกี่ยวกับการรู้เรื่องการเจริญเติบโต รวมทั้งแทรกมุมมองของผู้ที่ยังมีความเป็นเด็กในหัวในด้วย

สำหรับใน Extraction 2 คนระห่ำภารกิจเดือด 2 นั้น ได้ เล่าต่อจากเรื่องราวเมื่อภาคที่แล้ว ดู extraction 2 ภายหลังแทบฆ่าไม่รอด เรค ก็ได้กลับมาในหน้าที่ทหารรับจ้างตลาดมืดคนออสเตรเลีย กับรับภารกิจเสี่ยงตายครั้งใหม่ สำหรับในการเข้าช่วยเหลือครอบครัวที่โดนจับไปอำมหิตโดยกลุ่มผู้กระทำผิดกฎหมายชาวหน้าจอร์เจียสุดชั่วร้ายจากตารางที่พวกเขาโดนขัง แล้วก็นี่เป็นภารกิจที่ไม่สามารถมีผู้ใดกันแน่คาดคะเนได้

กลับมาในภาคนี้ก็ยังคงมากับกลุ่มผู้ผลิตเกือบจะชุดเดิม ไม่ว่าจะเป็น “แซม ฮาร์เกรฟ” ที่กลับมาสืบต่องานควบคุมของเขาอีกรอบ รวมทั้งเขาก็รู้ว่าแฟนหนังต้องหามองอะไรรวมทั้งอรรถรสแบบไหน โน่นก็เลยเป็นจุดที่เขาสามารถตอบปัญหาแฟนคลับออกมาได้ออกจะดี ด้วยวิสัยทัศน์สำหรับเพื่อการอัดแน่นด้วยฉากแอคชั่นบู๊ล่าระห่ำ มากกว่าระเบิดเทือกเขาเผากระต๊อบกันอย่างยิ่งจริงๆ

ดู extraction 2

รีวิวหนัง “Kitty the Killer อีหนูอันตราย”

ถึงพวกเราจะมีประสบการณ์อันโชกโชนหลายต่อหลายคราแล้ว แม้กระนั้นเพื่อคุณนักอ่านทุกๆคน ทางพวกเราจะยังไม่เข็ดขยาด นับว่าเป็นหน่วยกล้าตายที่ไปสัมผัสและก็ซาบซึ้งกับหนังเรื่องปัจจุบันจากค่าย ทองฟิล์มถ่ายรูป ที่ชอบมีคอนเซ็ปต์แล้วก็ไอเดียน่าดึงดูดมาเสิร์ฟให้แวดวงภาพยนตร์ไทยเป็นประจำกับเบอร์ปัจจุบันใน “Kitty the Killer อีหนูอันตราย” หนังแอคชั่นสายดาร์ก แบบดราม่าปนเฮฮาและก็วัยผ่องใสของเด็กสาว จะมารบราสังหารกันเลือดสาดสักเพียงใดเชียว

แม้จะมีวิธีการเล่า งานสร้าง รวมทั้งเส้นเรื่องที่มองมีมิติสมจริงสมจังเพิ่มมากขึ้น ดู extraction 2 รวมทั้งต่างจากฉบับแอนิเมชันอย่างแจ่มแจ้ง ถึงขั้นที่มีการเพิ่มซีนที่เต็มไปด้วยความซีเรียสและก็ดุเดือดให้กับตัวหนังจนกระทั่งไม่น่าเชื่อว่านี่เป็นหนังเด็ก แต่ว่าเนื่องจากว่าท้ายที่สุดแล้ว ตัวหนังเองก็ยังคงยึดทั้งหมดทุกอย่างตามเค้าเรื่องจากฉบับแอนิเมชันแบบเป๊ะๆจำพวกที่แทบจะไม่ต้องทายใจตอนสุดท้ายเลยว่ามันจะเป็นยังไงถัดไป อะไรบางอย่างจากในหนังก็เป็น Easter Egg ที่ดึงมาจากในแอนิเมชันเลยด้วย

ทำให้ตัวหนังโดยรวมๆเป็นเพียงแค่การเพิ่มมิติให้กับหนังแบบผิวๆให้เพียงพอจะมีอะไรขึ้นมาบ้างเพียงแค่นั้นโดยรวม บทก็มิได้มีความสดใหม่ สลับซับซ้อน หรือเฉียบคมใดนัก แต่ว่าก็ยังเพียงพอมีมุมมองที่น่าดึงดูด ในประเด็นการสะท้อนชีวิตคนไม่สมประกอบ ที่ถ่ายทอดผ่านบทของฮเยจิน ให้มองเห็นถึงวิถีดำรงชีพและก็ทัศนคติ รวมทั้งคำบอกเล่าของ Helen keller ผู้เขียนอเมริกันรางวัลพูลิตเซอร์ ที่ว่า ‘Disabilities are inconvenient, but they aren’t misfortunes

หากแม้ความข้องเกี่ยวทั้งสองดูเหมือนจะไปได้ดี มีโมเมนท์เชิญขำ น่ารักน่าเอ็นดู แล้วก็ฟินถูกกันดี แม้กระนั้นโลกนี้มิได้สวยสดงดงามด้านเดียว ปัญหาย่อมมีให้ฝ่าฟัน ชีวิตฮเยจินมิได้มีอิสระหรือพุ่งเป๊ะตรงเป้าดังใจได้อย่างลูกธนู และก็ฮวีซอ ชายหนุ่มผู้มิได้เพอร์เฟ็ค แม้กระนั้นเขาเลือกที่จะหลีกหนีปัญหา ไม่กล้าอยู่เคียงคู่ฮเยจิน อาจจำเป็นต้องไปช่วยทำให้พลังใจเชียร์กันจ้ะ

รีวิวภาพยนตร์ Beasts Clawing at Straws (2020)

เป็นภาพยนตร์ผลงานเดบิวท์ของผู้กำกับคิมยองฮุน ที่ดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขมาจากนิยายสอบสวนของประเทศญี่ปุ่น เรื่อง Wara nimo Sugaru Kemonotachi ของ Keisuke Sone โดยมีเปลี่ยนแปลงบทจบของเรื่องใหม่ ประสมประสานลีลาท่าทางการเล่าเรื่องที่แปลกมีสไตล์ กับบทที่เชื้อเชิญติดตามรวมทั้งเกินความทายใจคือ ความพิกลพิการก็เป็นเพียงแต่ความไม่กระปรี้กระเปร่า ไม่ใช่เรื่องอับโชคโชคไม่ดี’ ส่วนที่เชื้อเชิญซึ้งมากมายๆ

ก็คือมุมของบิดามารดาที่มีลูกทุพพลภาพก็มีหวังว่าจะตายข้างหลังลูกหนึ่งวันยืนยันความน่าดูด้วยคะแนน IMDb 7.1 แล้วก็รางวัล Special Jury Award จากเวที International Film Festival Rotterdam (IFFR 2020) แต่ว่าโชคร้ายที่มีตัวเลขรายได้ไม่สวยนัก เพราะเหตุว่าออกฉายในตอนที่ประเทศเกาหลีมีการระบาดของวัววิด-19 ซึ่งเป็นตอนๆที่โรงหนังค่อนข้างจะร้างเลย เพียงแต่เพื่อจะได้คุ้มครองป้องกันดูแลลูกจนกระทั่งถึงที่สุด!

อีกจุดที่ตัวหนังเองปรับเปลี่ยนให้ต่างไปจากอันเก่าก็คือ บรรดานักแสดงที่มีการเพิ่มความมากมายเข้ามา (หรือจะเรียกว่า Woke ก็พอใช้) ซึ่งในหนังจะมองเห็นการเปลี่ยนแปลงอัตลักษณ์ของนักแสดงไปๆมาๆกพอควร ทั้งยังการตัดประเด็นของเด็กชนเผ่าอินเดียนแดงให้เหลือเพียงเป็นเด็กหลง (เพื่อไม่ให้มีปัญหาประเด็นการดูหมิ่นเหยียดหยามเชื้อชาติ) ส่วนตัวละคร ไทเกอร์ ลิลลี ที่สวมบทบาทโดย อลิสซา วาพานาทาห์ก (Alyssa Wapanatâhk)

ที่ถูกแปลงจากเจ้าฟ้าหญิงคนประเทศอินเดียนแดง เป็นทหารหญิงคนท้องถิ้น (อะไรสักอย่าง) ในเนเวอร์แลนด์ ที่หากแม้คุณจะน่าดึงดูด แต่ว่าบทก็มิได้ทำให้คุณสะดุดตาเท่าไรนักหนังจะปูนำเรื่องมาแบบเรียบแยกเรื่องราวของผู้ใดกันแน่ของมัน เพราะว่ามีตัวละครหลักแยกกันเป็นชุดๆราวกับว่าจะไม่เกี่ยวข้องกัน แถมเล่าแบบไม่เรียงลำดับเวลาด้วย แต่ว่าเมื่อเรื่องของแต่ละคนเริ่มไต่ไปสู่จุดพีค ปัญหาตัวต่อของทุกชุดก็จะมาปะติดปะต่อคุ้นเคย

เพิ่มสีสันด้วยบทเซอร์ไพรส์หักมุม รวมทั้งการกระตุกความตื่นเต้นโหดเหี้ยมสยดสยองแบบเชิญอึ้ง ทยอยกระตุกรวมทั้งบีบคั้นอารมณ์กันไป ความระทึกใจก็ได้ซาวน์ประกอบเลิศๆสไตล์ ‘น้อยแต่ว่ามากมาย’ บิวท์ความเครียดแบบไม่เปิดเผย แทรกกลิ่นความดาร์คในอินดี้สไตล์ shortded แจมด้วย black comedy หน่อยๆ และไม่ได้คิดจะพึงพอใจความรักมาก่อนด้วย เนื่องจากคุณทุ่มเทให้กับการฝึกฝนเพื่อแข่ง